ใช้ Mac ให้คุ้ม ใช้ Mac ให้เร็ว ใช้ Mac ให้สนุก ที่นี่ มีคำตอบ
ตอนที่ 2 ติดตั้งโปรแกรม
การติดตั้งโปรแกรมใน Mac มีไฟล์หลายแบบ ติดตั้งหลายวิธี แต่ละวิธีก็ต่างกันไม่มาก ตามไปดูกันครับ
*ระบบ OS X ต่าง ๆ อาจติดตั้งโปรแกรมต่างจากนี้นิดหน่อย เรียนรู้ได้ไม่ยาก ในบทความนี้ ผมใช้ OS X 10.8 Mountain Lion ครับ
ไฟล์ติดตั้งของ Mac มาในรูปแบบใดบ้าง
1. ไฟล์ .dmg
ไฟล์จำพวกนี้จะมี .dmg ตามหลัง เป็นรูปแบบไฟล์ Image ซึ่งเมื่อคลิกแล้วจะมีหน้าต่างขึ้นมา แสดงสถานะการ Mount จะ Mount ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์ เมื่อ Mount แล้วจะได้ดังนี้
หน้าตาของไฟล์ Image ที่ Mount แล้วจะออกมาแบบนี้ ซึ่งจะต่างกันไปตามโปรแกรม และจะขึ้นหน้าต่างแสดงข้อมูลภายในมาโดยอัตโนมัติ อาจมีไฟล์หลายประเภทอยู่ในนั้น ซึ่งวิธีติดตั้งไฟล์แต่ละแบบนั้นก็ต่างกันไป เดี๋ยวเราคอยมาดูกัน
* หาก Mount Image File ไม่สำเร็จ จะขึ้นหน้าต่างเช่นนี้ หมายถึง Image File เสีย วิธีแก้ โหลดใหม่
2. ไฟล์ที่บีบอัด (ส่วนมากมักเป็น zip)
ไฟล์ .zip ถ้าโหลดผ่าน Safari (Browser อื่นไม่แน่ใจ) โหลดเสร็จจะแตกไฟล์ให้ทันที หากยังไม่แตก ดับเบิลคลิกไฟล์นั้น Archive Utility จะแตกไฟล์ หากไฟล์ใน .zip เป็นไฟล์เดี่ยว ๆ จะแสดงไฟล์นั้นขึ้นมา หากมีหลายไฟล์ใน .zip เมื่อแตก Archive Utility จะสร้าง Folder ใหม่ และไฟล์ทั้งหมดจะอยู่ในนั้น ซึ่งอาจเจอไฟล์ติดตั้ง หรืออาจเจอไฟล์ Image ในนั้นก็ได้
* ไฟล์เสีย ขึ้นหน้าต่างเตือน วิธีแก้ โหลดใหม่
ไฟล์ .tar, .tar.bz, .tar.bz2 นั้น Archive Utility แตกได้ นอกเหนือจากนั้น เช่น .rar ต้องใช้โปรแกรมอื่น ที่ผมแนะนำคือ The Unarchiver ใน Mac App Store
3. ไฟล์พร้อมติดตั้ง
โหลดมาพร้อมติดตั้ง ไม่ต้อง Mount Image ไม่ต้องแตกไฟล์
วิธีติดตั้ง
1. Bundle File
การติดตั้งโปรแกรมแบบนี้ ไว้สำหรับโปรแกรมที่โหลดมาเป็น Bundle File คือเป็นไฟล์โปรแกรมเดี่ยว ๆ สามารถลากลง Applications แล้วใช้ได้เลย
สวดยวด!!!!!!!!!! (- -!)
(ที่จริงกดเปิดแล้วใช้ได้เลย แต่ควรลากลง Applications เพื่อจัดให้เป็นระเบียบ)
หากโปรแกรมเหล่านี้มาในรูป Image File มักทำ Shortcut ลิ้งก์ไปยัง Applications ในเครื่อง โดยคลิกลากลงโฟลเดอร์ที่ทำ Shortcut ได้ แต่หากไม่ได้ทำไว้ ไปที่ Menu Bar คลิก Go -> Applications หรือจะกด Command-Shift-A ก็ได้
โปรแกรมส่วนใหญ่มักใช้วิธีติดตั้งแบบนี้ ไฟล์ Bundle มีนามสกุล .app ซึ่งถูกซ่อนไว้
2. .pkg
นามสกุลของไฟล์เป็น .pkg เมื่อดับเบิลคลิกแล้วจะเจอหน้าต่างติดตั้ง ดังนี้
โปรแกรมจำพวกนี้ ติดตั้งเหมือน Windows คือคลิก Continue ไปเรื่อย ๆ และไฟล์จะถูกติดตั้ง และไปอยู่ใน Applications เรียบร้อย โปรแกรมเหล่านี้หลายตัวมักแถมตัวลบ (Uninstaller) มาให้ด้วย
3. .prefpane
ไฟล์นามสกุล .prefpane คือไฟล์ที่ติดตั้งไว้ใน System Preferences เมื่อดับเบิลคลิกแล้วจะเรียก System Preferences ขึ้นมา และถามเมนูติดตั้ง
เลือกได้ว่าติดตั้งสำหรับผู้ใช้คนเดียวหรือทุกคน (หากเลือกติดตั้งให้ผู้ใช้ทุกคนต้องมีสิทธิ์ Admin) กด Install โปรแกรมจะอยู่บน System Preferences ในหมวด Other หากต้องการปรับค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับโปรแกรมนั้น ๆ ก็สามารถปรับได้จาก System Preferences
4. Mac App Store
* Mac App Store มีบน Mac OS X 10.6.6 ขึ้นไปเท่านั้น
เปิด App Store ขึ้นมา เลือกโปรแกรมได้ตามใจชอบ เมื่อเจอแล้ว ติดตั้งได้เหมือน iOS คลิกราคาสำหรับโปรแกรมที่ยังไม่เคยซื้อ โปรแกรมที่เคยซื้อแล้ว ขึ้น Install โปรแกรมมีในเครื่องแล้ว ขึ้น Installed เมื่อคลิกแล้ว อาจถาม Apple ID และรหัสผ่าน
– Mac OS X 10.6.6-10.6.8 Snow Leopard
Dock ยืดออก โปรแกรมลงไปที่ Dock แสดงสถานะดาวน์โหลดใต้โปรแกรม เมื่อเสร็จแล้ว icon จะเด้ง
– Mac OS X 10.7 Lion ขึ้นไป
โปรแกรมไปอยู่ใน Launchpad เมื่อเสร็จ icon Launchpad จะเด้ง (ถ้ามี)
5. Widget
ไฟล์แบบนี้เป็น Widget ใน Dashboard ซึ่งโดยทั่วไปมักมาในรูปแบบนี้ แต่หลาย Widget ก็ตกแต่ง icon เช่น
ไฟล์ Widget มีนามสกุล .wdgt ซึ่งถูกซ่อนไว้ วิธีติดตั้ง เพียงดับเบิลคลิก จะมีหน้าต่าง Widget Installer ขึ้นมาถาม
เมื่อกด Install แล้ว หากเป็น OS X ก่อนหน้า 10.8 จะเรียก Dashboard พร้อมทั้งขึ้น Widget ตัวนั้นไว้ และถามว่าต้องการคง Widget ไว้หรือไม่
หากเป็น OS X 10.8 จะขึ้นหน้า Add Widget และแสดงรายชื่อ Widget ดังนี้
เรียบร้อยครับ สามารถกดเรียก Widget ได้ทันที
นอกจากนั้นมีโปรแกรมอื่น ๆ อีกหลายรูปแบบ ซึ่งส่วนมากมักใช้วิธีดับเบิลคลิกทั้งนั้น และจะมีหน้าต่างติดตั้งของตัวโปรแกรมนั้น
* สำหรับ Mac OS X 10.7 ขึ้นไป หากเป็นโปรแกรม Java หรือโปรแกรมที่ต้องใช้ X11 จะมีข้อความให้ติดตั้งโปรแกรมที่ต้องการก่อน จึงสามารถติดตั้งโปรแกรมเหล่านั้นได้
* สำหรับ Mac OS X 10.7 ขึ้นไป หากโปรแกรมขึ้นเครื่องหมายกากบาททับโปรแกรม
เมื่อดับเบิลคลิกแล้วพบหน้านี้
โปรแกรมนี้เก่ามาก ๆ Compile ให้ใช้ได้กับ PowerPC Mac เท่านั้น ซึ่ง Apple เริ่มเปลี่ยน Mac จาก PowerPC มาใช้ Intel ตั้งแต่ปี 2005 แล้ว ซึ่งซีพียู PowerPC กับ Intel เป็นคนละสถาปัตยกรรม ถ้าจะนำโปรแกรม PowerPC Mac มาใช้กับ Intel Mac ต้องมี Rosetta ซึ่ง Apple ใส่ให้ตลอดตั้งแต่ Mac OS X 10.4 Intel Version จนถึง Mac OS X 10.6 และถอดออกใน Mac OS X 10.7 วิธีแก้เหรอครับ ตัดใจ หาโปรแกรมเวอร์ชันใหม่กว่านี้หรือโปรแกรมทดแทน ซึ่งไม่มีวิธีใดที่จะนำ Rosetta กลับมาได้ เพราะ Apple ต้องการผลักดันให้ใช้ App ใหม่
*สำหรับ OS X 10.8 ขึ้นไป หากไม่สามารถเปิดโปรแกรม หรือไฟล์ติดตั้งโปรแกรมได้ โดยขึ้นหน้าต่า
โปรแกรมถูก Block จาก Gatekeeper แก้ง่าย ๆ โดยคลิกขวาที่โปรแกรม กด Open จะขึ้นหน้าต่างถาม แต่คราวนี้จะมี Open และ Cancel แทน ให้คลิก Open แล้วโปรแกรมจะเปิดได้ ส่วนวิธีแก้แบบละเอียดดูใน Trick: OS X 10.8 Mountain Lion