ปล่อยกันเสียทีสำหรับ iOS 6 ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพาใหม่ล่าสุดจาก Apple เรามาดูของใหม่และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจาก iOS 5 กันดีกว่า
Maps
Goodbye Google Maps ถึงเวลาของ Maps จาก Apple แล้ว ซึ่ง Apple ร่วมมือกับ Partner หลาย ๆ ราย เช่น TomTom มาดูฟีเจอร์แบบกล้อมแกล้มกันดีกว่า (ดูแล้วก็แอบช้ำใจที่ใช้ไม่ค่อยได้เลยในประเทศไทย)
Maps
Maps 3D
Satellite
Satellite 3D
Hybrid
Hybrid 3D
Siri
ใน iOS 6 นั้น Apple ได้เพิ่มความสามารถของ Siri มาหลายอย่าง อาทิ คำถามเกี่ยวกับกีฬา ร้านอาหาร หรือภาพยนตร์ หรือจะสั่งให้ Siri เปิดแอพต่าง ๆ ก็ได้ เช่น พูดว่า “Open Camera” เธอก็จะเปิดกล้องมาให้ และที่สำคัญคือ Siri มาบน iPad (3rd Generation) แล้ว
คำแนะนำของผมคือ พยายามพูดดัง ๆ และไมค์ของ iPad นั้นอยู่ด้านบนครับ ไม่ใช่ด้านล่าง ถ้าจะพูดจ่อไมค์กรุณาพูดด้านบนครับ
Siri ทำอะไรได้บ้าง แน่นอน คำถามร้านกีฬา ร้านอาหาร หรือภาพยนตร์นั้น ใช้ในไทยไม่ได้แน่นอน T T แต่สิ่งที่ได้แน่ ๆ คือ อัพเดท Status บน Facebook, Twitter พร้อมทั้ง Share Location ได้ ทีนี้แม้อยู่บนรถ ก็สามารถบอกทุกคนได้ว่าคุณอยู่ที่ไหน
หลังจากการรวม Twitter เกิดขึ้นบน iOS แล้ว ไหนเลยจะไม่มี Facebook ตามมาด้วย (แต่ Android มีมานานแล้ว เนื่องจากเป็นระบบเปิด) ดังนั้น Apple จัดให้ ใส่ Facebook ทุกมุม มาให้คุณ ๆ ได้อัพ Status, ภาพ ฯลฯ ได้อย่างง่ายดาย
และถ้าเปิดระบบ Facebook แล้ว Contact จะมีเพื่อนใน Facebook เข้ามารวม และ Calendar จะมี Event ของ Facebook รวมถึงวันเกิดเพื่อนใส่เข้าไปด้วย
Photo
Shared Photo Stream
แบ่งปันอัลบั้มรูปภาพของคุณบน iCloud ได้ โดยส่งลิ้งก์ให้เพื่อน หรือแชร์ลิ้งก์ลง Facebook ให้เพื่อนเข้ามา Comment ก็ย่อมได้
จากเมื่อก่อน ส่วนของ Photo Stream จะมีแต่รูปภาพ แต่ตอนนี้ รูป Photo Stream จะถูกรวมเป็นอัลบั้ม และจะได้มีที่ว่างให้อัลบั้มอื่น ๆ มาแชร์
Do Not Disturb
งดส่งเสียงรบกวน เป็นฟีเจอร์ที่ควรจะมีใน iOS มานาน (มาก ๆ) แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าตอนออก iOS 5 นั้น Apple มั่นใจในระบบ Notifications ของตนเองจนลืม (หรือตั้งใจ) ไม่ใส่ปุ่มปิดทั้งหมดมาให้ (สังเกต ใน iOS ก่อน ๆ Apple จะใส่ปุ่มปิด Notifications มาให้) แต่วันนี้ มันกลับมาอีกครั้งใน iOS 6 ในชื่อว่า Do Not Disturb เป็นการปิดเสียงเครื่องทั้งหมด ยกเว้นโทรศัพท์จาก List บุคคลที่เราเลือกขึ้นมาว่าอนุญาตให้ดังในโหมดนี้ได้ นอกนั้น เสียงทุกอย่างจะถูกปิดหมด และสามารถตั้งเวลา Do Not Disturb ได้
หาก Do Not Disturb กำลังเปิดอยู่ จะมีรูปพระจันทร์ข้าง ๆ นาฬิกาด้านบน
เป็นเมลล์ที่ปรับปรุงใหม่ โดยมีฟีเจอร์ VIP Mail มาให้เก็บเมลล์จากคนที่สำคัญของคุณมายังกล่องเมลล์พิเศษ สามรารถเพิ่ม VIP ได้โดยกดลูกศรสีฟ้าด้านข้าง และจะแจ้งเตือนเป็นพิเศษโดยติดดาวสำหรับเมลล์อันพิเศษของคุณนี้ ดังนั้น คุณจะไม่พลาดเมลล์อันพิเศษของคุณอีกต่อไป (มั้ง)
และอีกฟีเจอร์ ลองสังเกตว่า ปกติมุมซ้ายล่างของ Mail จะเป็นปุ่ม Refresh ซึ่งมันหายไปแล้ว แน่นอน Mail ใช้ระบบ Pull to refresh เหมือน Twitter, Facebook ฯลฯ แล้ว
Mail ยังมีระบบแยกการแจ้งเตือน Mail แต่ละบัญชีออกจากกัน และ VIP Mail จะแยกเป็นพิเศษอีกเมนูเลยทีเดียว
นอกจากนั้น ใครที่มีเมลล์หลายบัญชีจัด และอยากใช้ลายเซ็นต์ต่าง ๆ กัน Apple จัดให้ โดยสามารถตั้งค่าได้ว่าจะใช้ลายเซ็นต์เดียวทุกบัญชีหรือจะใช้บัญชีละ 1 ลายเซ็นต์ก็ย่อมได้
Mail ยังสามารถใส่ภาพได้หลาย ๆ ภาพ และใส่จาก Mail โดยตรง ไม่ต้องไปเปิด Photo แล้ว Share มายัง Mail อีกทีเหมือนแต่ก่อน
Safari
แน่นอนว่า Safari ก็ยังคงเป็น Mobile Web Browser ที่ทรงพลังอยู่เหมือนเดิม และคราวนี้ Safari ก็เร็วกว่าเดิม และนอกจากนั้นยังมาพร้อมกับของเล่นใหม่ เช่น
iCloud Tabs
Offline Reading List
Guided Access
หลายครั้งที่เราใช้ iPad เป็นสื่อการสอนเด็กพิการ เด็กออทิสติก ซึ่งบางทีเราก็ต้องการให้ iPad เปิดแอพนั้น ๆ ไว้ ดังนั้น โหมด Guide Access จึงมีประโยชน์มากในการล็อคให้ใช้อยู่แอพเดียวเท่านั้น และจะมีประโยชน์มาก เมื่อเราต้องการให้เพื่อนเราเล่นแอพนี้แอพเดียว เพราะเราต้องการให้ทำงานนี้ในแอพนี้อย่างเดียว เพื่อนมันเกิดมือบอนไปเปิดเกมเล่นซะงั้น – -!
Guided Access จะบังคับปิดปุ่มทุกปุ่ม แต่สามารถเลือกปิดการให้เครื่องรับรู้การสั่นหรือการสัมผัส รวมทั้งวงกลมส่วนที่ไม่ต้องการให้แตะได้
(เนื่องจาก Guided Access ทำให้ Capture หน้าจอไม่ได้ ต้องเอากล้อง iPhone 4 ถ่าย เลย…)
Remodeled Store
นับจากวันที่ iTunes Store, App Store, iBooks Store เปิดบน iOS ก็ 4-5 ปีแล้ว มันถึงเวลาแล้วที่ควรจะเปลี่ยนโฉมใหม่เสียที เนื่องจากทุกคนคงเบื่อกันแล้ว ดังนั้น Apple จัดให้ Store โฉมใหม่ มาพร้อมสีที่เข้มขึ้น สะดวกขึ้นในการเลือกชม Content ต่าง ๆ
ในตัวอย่างผมจะเอา App Store มาให้ชมครับ เพราะทุก Store ก็จะเหมือน ๆ กันหมด
มาดูหน้า Features กัน
หน้าชาร์ต
หน้า Search แสดง Thumbnail ของแอพไว้ภาพหนึ่ง เพื่อง่ายต่อการเลือกหาแอพ
หน้าตาในการเลือกแอพ
ตอนกด Install แล้ว App Store จะไม่เด้งตัวเองออกไปยังแอพที่โหลด แต่จะขึ้นสถานะเช่นนี้แทน
เมื่อดาวน์โหลดแอพเสร็จ จะมีแถบคาดว่า New เมื่อเปิดแอพครั้งแรกจะหายไป
สำหรับหน้าตาบน iPad นั้นจะดูไฉไลเลยทีเดียว มอง ๆ ไว้เถอะครับ แล้วก็ดูให้ดี เพราะหน้าตา Store แบบนี้ แบบนี้เป๊ะ ๆ จะไปอยู่บน iTunes 11 เวอร์ชันปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ Store หน้าตาแบบเดียวกับ iPad จริง ๆ
Clock
นับว่าเป็นครั้งแรกที่ iPad ใส่นาฬิกาเข้ามาให้ (เสียที) หลังจากเมื่อก่อน ถ้าจะตั้งนาฬิกาปลุกใน iPad ต้องหาแอพมาช่วย แต่แน่นอนว่า เมื่อ iPad ใส่นาฬิกาเข้ามาให้ก็ต้องไฉไลหน่อย เป็นอย่างไร ไปดู
World Clock มาในหน้าตาไฉไลดี และบอกเวลาเป็นเมือง ๆ ได้ด้วย บอกเวลาตามแผนที่ และมีเงาแสดงให้เห็นว่าที่ไหนเป็นกลางวัน ที่ไหนเป็นกลางคืน พร้อมทั้งบอกอุณหภูมิ ณ เวลานั้น ๆ ด้วย
หากกดนาฬิกาใด ๆ ก็ตาม จะได้นาฬิกาเรือนใหญ่ ๆ เช่นนี้ เอาไปวางเป็นนาฬิการาคาเรือนหมื่นได้
Alarm ตั้งนาฬิกาปลุกได้ และตั้งไว้ทั้งสัปดาห์เลยก็ได้
Stopwatch นาฬิกาจับเวลา มีการจับเวลาและบันทึกเวลาเป็นช่วง ๆ เหมือน iPhone
Timer ไว้จับเวลา ที่มีคุณค่าดั่งทอง #ห๊ะ
แน่นอนว่าเราสามารถใช้เธอตั้งเวลา หรือถามเวลาตามประเทศก็ย่อมได้
เล็ก ๆ น้อย ๆ กับ iOS 6 บน iPad (3rd Generation)
– ตอน Split Keyboard ภาษาไทย สามารถดึงออกมาได้แล้ว (จากปกติต้องกดปุ่มพับคีย์บอร์ดค้างไว้) และกลายเป็น 4 แถว จากเดิม 3 แถวแบบ iPhone
– Privacy ควบคุมแอพต่าง ๆ ว่าจะให้เข้าถึงหรือไม่ให้เข้าถึงส่วนใดของเรา
– Reminders หน้าตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กันนะครับ ขอให้สนุกครับ Enjoy iOS!