เขาชนไก่ นศท.ชาย ปี 3 ปีการศึกษา 2556 (เข้าต้นปี 2557)

Blog Entry มาเล่าประสบการณ์ + สปอยล์นิด ๆ ตามประสบการณ์ของตนเองในผลัดที่ 11 นะครับ

ก่อนเริ่ม โปรดทราบว่าเรื่องราวต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงตามได้แล้วแต่ความ(ไม่)เหมาะสม
ผลัดของผมเป็นผลัดที่ 11 เข้าวันที่ 15-19 มกราคม เริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า

วันที่ 1

เริ่มเรื่องด้วยการไปสวนเจ้าเชตุ ให้แม่พาไป พอไปปุ๊บ เช่นเดิม หลง -*- ก็ขึ้นแท็กซี่ให้พาไปถึงจนได้

สปอยล์: รถแอร์แทบทุกคัน แต่แอร์ดีไม่ดีอีกเรื่องนึง

ก่อนไปสถานที่ฝึกภาคสนาม รถจะเลยไปอุทยานสงคราม 9 ทัพ ตรงนี้เรานั่งฟังประวัติ คนบรรยายน่าจะมีคนเดียวล่ะมั้ง แต่ฟังแล้วโคตรสนุก ไม่ใช่การเรียนประวัติศาสตร์ที่น่าเบื่อ เพราะเราได้เห็นสถานที่จริงว่าพม่ามาทางช่องเขานี้ เรารบแบบนี้

พอถึงเขาชนไก่ เขาจะให้เอากระเป๋าไปวางที่กองพันปกครองก่อน รถก็จะพาไปสนามยิงปืน สถานี 31 ต่อ เรามานั่งฟังวิธียิงปืนก่อน แล้วก็ให้ซ้อมด้วยปืนจริง แต่ยังไม่ใส่กระสุน และจำเป็นต้องใส่ Earplug ด้วย ฉะนั้นเราก็ต้องซื้อตรงนี้แหละ (30 บาท) ถ้าใครมีก็เอาไปด้วยก็ได้ ไม่ต้องซื้อ ส่วนขั้นตอนธุรการ เช่น เช็คชื่อ จัดหมวดหมู่ ก็ตรงนี้แหละ แถมครูฝึกจะบังคับให้ซื้อสมุดกับปากกา ไม่รู้กองพันอื่นโดนหรือเปล่า (10 บาท)

พอเสร็จจากขั้นตอนยิงปืนก็เป็นการขึ้นเขาชนไก่ บอกไว้ก่อนเลยว่าชันมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชันประมาณ 45 องศาได้ ปีนทีโคตรเหนื่อย แต่ถ้าขึ้นไปแล้วจะเห็นว่าวิวสวยมา ถ้าใครอยากถ่ายรูปรับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง พอขึ้นไปถึงก็จะเจอพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 และด้านหลังก็มีพระด้วย เสร็จแล้วก็มาฟังทหารเล่าเรื่องนิดนึง หลังจากนั้นก็ลง ซึ่งความชัน 45 องศา อย่าได้อวดเก่งวิ่งเร็วเป็นอันขาด เพราะถ้าพลาดอาจมีกลิ้งลงไปได้ เห็นครูฝึกบอกผลัดก่อนหน้าขึ้นเขาชนไก่วันที่ 5 ตอนตี 3 แต่เพราะขึ้นไปแล้วไม่เห็นอะไรเลยต้องเปลี่ยนตาราง

พอกลับถึงกองพันก็มีขายของอีกแล้วครับท่าน เสื้อ + ผ้าพันคอ (100 บาท) แล้วก็อาบน้ำนอน

วันที่ 2

เริ่มเช้าก็ไปยิงปืนครับ สำหรับขั้นตอนยิงปืนเราจะต้องใส่ Earplug สำหรับเสียงปืน ถ้าใครชินกับเสียงประทัดตรุษจีนหรือเชงเม้ง ก็นั่นแหละครับ เสียงโทนเดียวกันเลย เราจะต้องยิงปืน 32 นัด เป็นปรับการยิง 6 นัด ปรับการยิงครั้งที่ 2 อีก 6 นัด และยิงเก็บคะแนน 12 นัด

พอยิงปืนเสร็จจะถูกตรวจร่างกาย เพื่อไม่ให้เราเอาปลอกกระสุนหรือตัวกระสุนออกไปเด็ดขาด ขั้นตอนนี้โหดน่าดู อย่าได้ลองดี

หลังจากนั้นก็มีฐานปฐมพยาบาล ซึ่งก็เป็นการสาธิตแบบง่าย ๆ และฐานนี้ก็ไม่มีอะไรเลย

คืนวันที่ 2 จะมีการบรรยายพิเศษ แบ่งเป็น 3 ตอน คือ การกำลังสำรอง, นันทนาการ และอุดมการณ์ความรักชาติ

การกำลังสำรอง จะพูดเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับเมื่อเราเรียน รด.จบปี 3
นันทนาการ จะเป็นการเชิญ นศท.ออกมาร้องคอนเสิร์ต
อุดมการณ์ความรักชาติ เป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย การเสียกรุง ฯลฯ และปลูกฝังให้คนไทยรักชาติและสามัคคีกัน

วันนี้ ตอนกลางคืนต้องเตรียมเก็บของเข้าป่า แนะนำว่าเอาไปเฉพาะถุงนอน, ผ้าห่ม, เสื้อกันหนาว, แปรง/ยาสีฟัน ประมาณนี้พอ เพราะจะได้ไม่หนัก

วันที่ 3

วันนี้เริ่มต้นด้วยการเดินเข้าป่า เข้าสถานี 32 ครึ่งเช้าจะเป็นการเข้าตีกับตั้งรับ ครึ่งบ่ายก็มีการพรางหน้า และห้ามล้างออกด้วย 😛

ตอนเย็นจะเป็นการสอนการใช้ชีวิตในป่า ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ การดูว่าผลไม้ชนิดไหนกินได้บ้าง การหุงข้าว การดูว่างูชนิดไหนมีพิษ แถมมีการโชว์งูจริงด้วยนะ เสร็จก็ให้ไปหุงข้าวกินกันเอง

ตอนดึกจะเป็นการเข้าตีและตั้งรับตอนกลางคืน ตรงนี้ใช้ประสาทหูกับประสาทตาให้ดี ห้ามใช้ไฟฉายหรืออะไรที่เป็นไฟเด็ดขาด และเงียบเข้าไว้ ไม่งั้นโดนไล่ไปเริ่มต้นใหม่แน่ เสร็จแล้วก็เข้านอน

วันที่ 4

เริ่มต้นด้วยการไปสถานี 33 หรือสถานีที่ทุกคนกลัวนั่นเอง “จ่านรก” หัวหน้าสถานีจะมารอคุณ หลังจากกินข้าวเสร็จก็โดนซ่อมเลย หมอบ กลิ้ง คลาน วิดพื้น ฯลฯ ตรงนี้ไม่อยากสปอยล์มากนะ ไปลุ้นกันเองว่าจะเจออะไรบ้าง เก็บของใส่กระเป๋าเสื้อละกัน รับรองสนุก เพราะจะมีคนของหายจากขั้นตอนนี้เยอะมาก

หลังจากนั้นก็เป็นการเข้าตี-ตั้งรับ (ตั้งรับจะเรียนไปพร้อมการร่นถอยโดยสภาวะกดดันด้วย) จะแบ่งครึ่ง ถ้าเช้าใครได้เข้าตี บ่ายจะได้ตั้งรับ ส่วนใครได้ตั้งรับเช้า จะได้เข้าตีบ่าย และแน่นอนว่าการเข้าตีนี่โคตรเหนื่อย หมอบ คลาน (ถ้าเจอจ่านรกแล้วไม่รีบคลานจะถูกไล่ไปคลานใหม่ได้) กลิ้ง แต่ตั้งรับโคตรสบาย เหมือนแค่นอนในหลุมแล้วก็วิ่งออกไป แค่นั้นเอง -w- ตรงนี้ก็ไม่อยากสปอยล์มาก ไปลุ้นกันเอาเองสนุกกว่า เพราะสถานการณ์อาจเจอไม่เหมือนกันก็ได้

พอตอนกลางคืนจะเป็นการร่นถอยอย่างสมัครใจ ตรงนี้ก็ฟังทหารพูดอธิบาย และรอฟังสัญญาณ ผมก็นั่งนับดาวรอทหารเรียกเลย ได้ 11 ดวง พอเรียกปุ๊บก็เดินตามที่กำหนดไว้ หลังจากนั้นก็เดินกลับกองพัน วันนี้ครูฝึกจะให้อาบน้ำนานเป็นพิเศษ ฉะนั้นอาบกันได้ไม่ต้องแคร์

วันที่ 5

วันนี้ก็วันกลับแล้วสินะ คุณจะรู้สึกว่า 4 วันนรกนั้นผ่านไปเร็วมากเลยทีเดียว เช้าก็จะมีการทานข้าว ให้ตัวแทนออกมากล่าวความประทับใจ แล้วก็พาไปโดดหอ (ไม่บังคับทุกคนนะ แต่บังคับซื้อ wristband กับปีกนะครัช (95 บาท) และข้ามลำน้ำ เชือก 2-3 เส้นมีเฉพาะบนน้ำ แต่เชือกเส้นเดียวมีทั้งบนบกและบนน้ำ หากใครเฮี้ยนก็เชิญบนน้ำได้นะครับ หลังจากนั้นก็กลับกองพัน ทานข้าว และเตรียมรอครูส่งให้ครูประจำรถจัดขึ้นรถ

พอขึ้นรถเสร็จแล้วก็ทำพิธีปิดครับ… ทุกคนคงรู้ว่ามันเหนื่อยและร้อนแค่ไหน แต่ก็ต้องอดทนนะครับ ครั้งสุดท้ายแล้ว พอประธานพูดจบ แล้วครูฝึกสั่งเลิกแถว ทุกคนเฮกันแบบสนั่นหวั่นไหวเลยทีเดียว

เพื่อความอยู่รอด

  • ทหารสั่งอะไรจงทำตาม
  • เรียกรวมพลให้เงียบ นับให้ดัง (ถ้าดังเกินอาจกลับมาบ้านเสียงหายแบบผม -w-)
  • อย่าดื้อกับครูกองพันให้มากนัก เพราะเขาอยู่กับเรา 5 วัน  และถ้าเขาโหดแบบจ่านรกล่ะก็…
  • ผมก็ตัดไปซะหน่อย เพราะถ้าไม่ผ่านก็ต้องตัดใหม่ (พันผมไม่ได้ตรวจผ่าน ๆ แบบปี 2 พันอื่นไม่รู้)
  • ถ้ามีทิชชู่เปียกเอาไปด้วยจะดีมาก
  • อย่าเอาของไปเกินความจำเป็น เอาอะไรที่มันพกง่าย ๆ
  • เงินสำคัญที่สุด อย่างต่ำ 500
  • ข้าวหลวงถ้ารับกับความสะอาดถาดไม่ได้ก็ต้องรับนะครับ เอาผ้าพันคอเช็ด ๆ ไปก็ได้ เพราะเวลากินยังไงก็คลุกฝุ่นอยู่ดี หรือถ้าอดได้เป็นอด ผมไม่ได้มีปัญหากับอาหารนะ มีปัญหากับถาดนี่แหละ =w=
  • ยาเสพติด อย่าเด็ดขาด ถ้าจับได้อาจโดนส่งกลับ ถ้ารอดก็โชคดีไป
  • ของสำคัญใส่กระเป๋าเสื้ออย่างเดียว ใส่กระเป๋ากางเกงจะหล่นหายได้

พันไหน : 33 33
ฉายา : อาชาศึก สำนึกคุณชาติ องอาจสามัคคี!

Advertisement
เขาชนไก่ นศท.ชาย ปี 3 ปีการศึกษา 2556 (เข้าต้นปี 2557)

3 thoughts on “เขาชนไก่ นศท.ชาย ปี 3 ปีการศึกษา 2556 (เข้าต้นปี 2557)

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s