ทำไมผมถึงอยากได้ Mac?

ก็ไม่รู้สินะ ~*

ที่จริงแล้วเรื่องราวมันเริ่มมาจาก iPod เครื่องแรกต่างหาก

จะว่าไปผมมันก็คือสาวกยุคหลัง ยุคที่ iPhone เริ่มรุ่งเรืองแล้วนั่นแล

iPod เครื่องแรกของผมคือ iPod touch รุ่นที่ 2 ซื้อจากร้าน Banana IT สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน

จริง ๆ จะว่าไปผมก็อยากจะเขียนซีรีย์เรื่อง iOS Devices ด้วยนะ แต่เอาไว้ทีหลังจะกัน เนื่องจากมันครบรอบ 30 ปีของ Mac ผมก็ควรเขียนเกี่ยวกับ Mac จริงไหม กิกิ

ทีนี้เมื่อผมไปซื้อ ผมก็ชอบเข้าจังร้านที่ขายสินค้า Apple คือแบบว่าเข้าไปแล้วมันแบบ ได้เห็นของเล่นชิ้นใหม่อ่ะ (ถึงแม้จะยังไม่ใช่ของตัวเองก็ตามที)

Mac คืออะไร ตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอก (ผมรู้จัก Linux ก่อน Mac ด้วยซ้ำ) เพิ่งจะมารู้ก็ตอนซื้อ iPod นี่แหละ ก็เริ่มที่จะหาข้อมูลไป มันคืออะไรก็ไม่รู้ ตอนนั้นคือรู้แค่ว่ามันเจ๋งกว่า Windows

ทีนี้เมื่ออยากรู้มากขึ้น ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ Mac มากขึ้น ถึงกับนั่งดูวิดีโอสาธิตของแอปเปิลแทบทุกวันเลยนะเออ แบบว่าเห้ยมันเจ๋งอ่ะ พอเห็นคนอื่นมี Mac ก็รู้สึกว่าอยากได้มาก แล้วก็ตื้อแม่ตั้งหลายปี ไปที่ห้างทีไรต้องไป iStudio ตอนนั้นประทับใจมากที่พี่พนักงานขายที่ร้านบอกว่า “ถ้าเห็นร้านไหนมี Mac นะ เข้ามาเลย ไม่มีพิษมีภัยหรอก ปลอดภัยกว่าร้านเกม” แต่ตอนนี้พี่เขาคงย้ายสาขาไปแล้วล่ะ หลายปีหลังที่ผมไป iStudio สาขานั้นก็ไม่เจอแล้ว

Mac ใช้ยากเหรอ อืม… ทำไมล่ะ ผมไปกด ๆ ดู ไม่เห็นยากตรงไหนนี่ อาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนเรียนรู้การใช้งานเร็วหรือเปล่า เพราะปกติผมใช้อะไร กด ๆ แป๊บเดียวก็ใช้เป็นแล้ว มีอุปกรณ์น้อยชิ้นมากที่ผ่านเข้ามาในชีิวตผมแล้วผมจะต้องเรียนรู้นานกว่าจะใช้งานมัน

ความฝันมันมาเป็นความจริงเมื่อ ม.4 ผมก็ได้ Mac เครื่องแรก เป็น MacBook Pro 13-inch รุ่นปี 2011 รุ่นล่างสุดเลย

ตอนนั้นกะจะซื้อ MacBook สีขาวแล้ว แต่เนื่องจากบอดี้เป็นพลาสติก ประกอบกับร้างการอัพเดตนาน ยังคงเป็น Core 2 Duo อยู่ ก็เลย… บาย

เนื่องจากตอนนั้นศึกษาข้อมูลมาเยอะมาก ตัดสินใจตั้งนาน สุดท้ายซื้อ Education Price ใน Apple Online Store พร้อม AppleCare Protection Plan ต่อประกันเพิ่มรวมเป็น 3 ปี ตอนที่ติดตาม (track) ว่า Mac มาถึงไหนแล้ว เช็คทุก 1 ชั่วโมงเลย พอมาถึงสุวรรณภูมิแล้ว เริ่มดีใจ

จันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2554 หลังจากกลับจากโรงเรียนตามปกติ พอมาถึงบ้าน สักพัก DHL ก็มาส่งของ ฟิลลิ่งของการแกะกล่อง Mac นี่คือกลิ่นใหม่ กลิ่นใหม่ที่ผมรู้สึกว่าชอบมันจนถึงปัจจุบัน (ใครเคยแกะกล่อง Mac จะรู้ว่ามันฟินแค่ไหน) แอบเว่อร์ไปนะ…

ตอนนั้นผมถ่ายรีวิวแกะกล่องลง Freemac ด้วย โดนคนแซวอีกแน่ะว่าตื่นเต้นจนถ่ายรูปมือสั่นเลยเหรอ (ฮา)

ผมใช้เวลากับ Mac เครื่องนั้นหลายวัน หลายวันเลยทีเดียว มันก็คือคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องธรรมดาใช่มะ แต่ทำไมล่ะ ผมใช้เวลากับอุปกรณ์ชิ้นนี้นานมาก กลับมาจากบ้านก็เปิด ใช้ ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับมันมาคือแบบว่าอยากเรียนรู้ อยากรู้ว่ามันมีอะไร ทำไมคนที่ใช้มันถึงชอบมันจัง

หลังจากที่ผมเรียนรู้ ผมก็เข้าใจแล้วว่า การที่ Mac นั้นมีอะไรที่พิเศษกว่า Windows เป็นคำที่ไม่อาจบรรยายได้หมด มันเหมือนกับการเปิดหนังคนละม้วน เพราะการลองใช้เองนั่นแลที่ทำให้รู้สึกว่า ที่เขาบรรยายมานั้นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ฟิลลิ่งการใช้งานทั้งหมดมันบรรยายไม่ได้จริง ๆ

ผมใช้ Mac แล้วรู้สึกหลงใหล ทำไมน่ะเหรอ ผมรู้สึกว่าผมหลงใหล พอ ๆ กับคนที่สร้างมันที่หลงใหลในตัวมัน เพราะเวลาใช้ Mac มันไม่ได้เหมือนกับผมกำลังใช้ของที่ “ดีที่สุด” แต่เหมือนกับว่าผมกำลังใช้ของที่ทำขึ้นมาจาก “ความตั้งใจ” จึงรู้สึกได้ว่า เรากำลังใช้สิ่งของที่เกิดจากความตั้งใจและความปราณีต

หลังจากนั้นมา เกือบ 3 ปีแล้ว เจ้า Mac เครื่องนี้ก็ใกล้หมดประกันเต็มที แต่ก็เพราะเจ้านี่แหละทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป ไม่ใช่ในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง แต่รู้สึกว่ามัน “เปลี่ยนไป”

ผมทำแทบทุกอย่างที่ Mac เครื่องนี้จะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสาร, เล่น Social Network, แต่งรูป, อัพรูป, ตัดต่อวิดีโอ มันทำให้ชีวิตผมง่ายขึ้นเยอะ

หลังจากที่ผมเปิดโลกทัศน์กว้างขึ้น ผมก็จะเจอคนมากมายที่ว่า Mac ไม่ดีบ้าง ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา แต่ที่แน่ ๆ ผมคงไม่สรุปหรอกว่า Mac ดีหรือไม่ดี เพราะคำว่าดีหรือไม่ดีนั้น

มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนต่างหาก

Mac จะอยู่รอดไหม ในยุคของ Windows ที่เริ่มจะเลียนแบบเอกลักษณ์ Mac ผมตอบไม่ได้ แต่ในความเชื่อของผม Mac ก็คือ Mac ส่วนของเลียนแบบก็ยังคงเป็นของเลียนแบบวันยังค่ำ

สิ่งที่ทำให้ Mac ยังคงเป็น Mac ได้ก็คือความเป็น Mac นั่นแล ต่อให้ใครจะพยายามเลียนแบบเอกลักษณ์ แต่เชื่อว่าชาว Mac ทุกคน ยังคงรู้ว่า Mac คือ Mac ฟิลลิ่งการใช้งานมันเลียนแบบกันไม่ได้ โดยเฉพาะ OS X

“OS X. It’s what makes a Mac a Mac” – OS X สิ่งที่ทำให้ Mac เป็น Mac

สิ่งที่จะทำให้ Mac ยังคงเป็น Mac ได้อยู่ทุกวันนี้คือความเอาใจใส่ในการผลิต การเอาใจใส่ในฟิลลิ่งการใช้งานของ Apple รวมถึงเทคโนโลยีที่จะนำมาใส่อยู่เรื่อย ๆ และปรับให้มันเข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคน ทำให้ Mac ยังคงความเป็น Mac และจะยังคงเป็น Mac เหล่าผู้บริหารก็ให้สัมภาษณ์แล้วว่าจะไม่เอามารวมกับ iOS แต่จะทำให้มันใช้งานด้วยกันได้อย่างราบรื่น

ฉะนั้น ผมจึงเชื่อว่า Mac คือ Mac และในอนาคตอันใกล้ก็ยังไม่มีใครมาแทนที่ได้

Happy birthday Mac. Since 1984