อันเนื่องจาก Rules of Barcamp ที่เมื่อจบงานก็ต้องกลับมาเขียน Blog เลยเขียนซะหน่อยครัช Barcamp ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเลยทีเดียว อันเนื่องจากปีที่แล้วติดธุระก็เลยชวดไป ตอนเช้าก็มาซะเร็วเชียว ถึงก่อน 1 ชม. ก็เลยนั่งรอเดินรอเดินคุยกับคนอื่นไปเรื่อย เมื่อถึง 8.55 น. ก็ได้เปิดให้ลงทะเบียน รับเสื้อ หนังสือพลเมืองเน็ต สติ๊กเกอร์ bcbk ไว้โหวต session สติ๊กเกอร์กูเกิล ฯลฯ หลังจากนั้นก็ขึ้นชั้น 2 มาโหวต session ที่อยากฟัง พอ session มีคนโหวตเยอะพอแล้วก็ได้เข้ามาอยู่ในตารางเวลา
เข้ามาพิธีเปิด ก็มีเปิด streaming tag #bcbk หลังจากนั้นก็เปิดวิดีโอแนะนำคณะ ภาควิชา ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครสนใจ 555 ทวีตติดแท็ก #bcbk ขึ้นจอกันจ้าละหวั่นจนสุดท้ายก็ต้องปิด streaming เพื่อให้คนสนใจพิธีเปิด
มีพิธีเปิดงานเล็กน้อย เล่นกิจกรรม และเริ่ม session ทันที ตามสไตล์ Barcamp ที่เคยได้ยินได้ฟังมามักจะเป็นงานที่ไม่เยิ่นเย้อนัก
คาบแรก เข้า session Jailbreak your iDevice ของพี่ไท @dtinth ที่ฟังอันเนื่องจากสมัยก่อนผมเจลเบรคตัวยงเลย ซึ่งเดี๋ยวนี้เลิกแล้วแต่ก็อยากฟังเพราะจะได้ทราบว่าปัจจุบันถึงไหนแล้ว (ความจริงแค่พี่ไทขึ้นพูด เรื่องอะไรก็ฟังหมดแหละ 555)
ต่อด้วย session (อย่า)เรียนวิศวะคอม ของ @LXZE และ @Lifez เป็นเรื่องฮาๆ พอสมควร
session เป็นโปรแกรมเมอร์นั้นเจ็บปวด! เป็น session ที่เน้นเรื่องเทคนิคเยอะพอสมควร ต่างจากหัวข้อเหมือนกันแฮะ 555 ซึ่งตรงนี้ผมก็เห็นว่า session นี้มีประโยชน์เพราะจะได้ฟังแนวคิดเรื่องการ design ว่ามันสำคัญขนาดไหน และ requirement ที่มันเปลี่ยนบ่อยๆ ไม่แน่ไม่นอนนี่มันแย่แค่ไหน พักเที่ยง กินข้าวกินน้ำกันอิ่มแล้วก็ฟังภาคบ่ายต่อ ซึ่งพอไปดูตารางก็ดีใจมาก ผมรอ session .vimrc ซึ่งเป็น session ที่ขึ้นชื่อก็น่าฟังแล้ว ยิ่งเป็นพี่ไทพูดอีกนี่ บอกเลยครับ พลาดไม่ได้
session Thailand Cyber Attack ของลุง @icez ก็ได้ฟังเรื่องการโจมตีแบบต่างๆ ซึ่งเท่าที่ฟังแล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่ประเทศไทยจะประสบคือ Social Attack ว่าง่ายๆ ก็คือดราม่านั่นแหละ เหมือนกรณีที่ลุงไอซ์ยกตัวอย่างพันทิปที่เคยล่มไป 30 นาที รวมถึงเว็บลูกค้าเว็บหนึ่งที่โดนอีจ่าเอาลิงก์ไปแชร์จนคนคลิกเข้ามาในระดับที่เซิร์ฟเวอร์รับกันไม่หวั่นไม่ไหว (เอ เว็บอะไรหนอออออ)
มาถึง session ไร้สาระที่ใช้เวลาทำสไลด์แปปเดียว (เรียกเผาน่าจะถูกกว่า) ชื่อว่า #ถีบเนยสด โดย @medkung และคณะ แหม่ มีพื้นที่โฆษณาด้วยนะ แต่ผมขอเซนเซอร์ไว้ละกัน 😛 บอกได้เลยครับ session นี้ ใครมาฟังนี่มีแต่เรื่องไร้สาระ แต่ไม่เสียเวลาเปล่านะครับ ฮาสัสๆ ถถถถถถถถถถถ
เข้าไปนั่งฟัง session “เว็บล่ม! ปัญหาใหญ่ของการศึกษาไทย” ผู้พูด @sarunint ซึ่งเป็นการพูดครั้งแรกของน้องเขาเลย พูดตามตรงเลยก็คือฟังแป๊บเดียว แต่ก็พอรู้ว่าน้องเขาเก่งจริงนะ คิดว่าถ้าในอนาคตถึงแม้ไม่ได้เรียนด้านไอทีอย่างที่ฝันแต่ถ้าคอยพัฒนาก็ไปได้ไกลแน่ ซึ่งมันกลายเป็นคาบแนะแนวซะงั้น 555
session เรื่อง What we know about NSA so far? ของ @public_lewcpe แห่ง Blognone ซึ่งเป็นการเอาเรื่องราวที่เคยเขียนไปใน Blognone มาสรุป แต่สารภาพตามตรงครับ ผมหลับ (ขอโทษฮะลุงลิ่ว _/_) แต่ก็พอได้ความรู้เรื่อง NSA แล้วว่า “NSA นี่มัน NSA จริงๆ”
หลังจากนั้นแบตกล้องหมดฮะ QwQ เอาเป็นว่าอ่านเป็นข้อความละกัน ไปพักเบรค กินขนมปังเล็กน้อย ขึ้นมาฟัง session ต่อไป .vimrc โดยพี่ไท @dtinth พูดตามตรงเลยครับว่าไม่ผิดหวัง ขอยกให้เป็น session มีสาระที่ดีที่สุดสำหรับงานนี้เลยฮะ ชำแxละสังคมออนไลน์ไทยแลนด์ โดย @vvkungx [from @fbinth] ก็ฟังเรื่องราวของสังคมออนไลน์ไทยตั้งแต่อดีต ยุค MSN, Hi5 จวบจนการเริ่มต้นของ Facebook ตามมาด้วย Twitter และ LINE (แลดูแก่) เลิกใช้ Social N.W. แบบผิดๆ ซักที! @minikoong ซึ่งเป็น session ในคาบสุดท้ายของงานนี้ นั่งฟังเรื่องราวดราม่าๆ ใน social network ว่าชนวนอะไรทำให้มันเกิดเรื่องราวเล่านี้ขึ้นมา และวิธีใช้ social network ที่ถูกต้องคืออะไร สำคัญคืออย่าได้ให้ร้ายผู้อื่นทาง social network และอย่าเดาน้ำเสียงผู้อื่นจากข้อความเด็ดขาด จบงานด้วยปาร์ตี้พิซซ่า 80 ถาด ฟังดนตรี ถ่ายรูป แยกย้ายกลับบ้าน
สรุป
ปีนี้เป็นปีแรกที่มา Barcamp ซึ่งปีที่แล้วดันติดสอบ QwQ ซึ่งความจริงคือตั้งใจมา survey ว่าทำอะไรกันบ้าง แต่ Barcamp คืองานที่ดีจริงๆ ลักษณะงานที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่สนใจจะพูดเรื่องอะไรก็ได้ทำให้เป็นงานที่เปิดกว้างมากๆ ได้ฟังความคิดความอ่านของผู้ใหญ่ทำงานในวงการนี้ เด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษา จึงเป็นงานที่หลากหลาย ขอแค่กล้าพูดก็พอ ซึ่งปีหน้าผมก็คงได้เป็นสต๊าฟงานนี้นะครับ